นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงาน
กลุ่มบริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยีจำกัด ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
กลุ่มบริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี จำกัด , บริษัท โทไค เกจ เทคโนโลยี จำกัด , บริษัท เอ.ไอ. ฟาวน์ดรี้ แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด , บริษัท เอ.ไอ. อินโนเวทีฟพลัส จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า รวมถึงบุคคลธรรมดาที่ดำเนินการให้ลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลด้วย (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบและทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้
1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของสมาชิกก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งสมาชิกเป็นคู่สัญญากับเรา เช่น การจัดทำทะเบียนสมาชิก การพิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากสมาชิก การสร้างบัญชีผู้ใช้งาน การยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้ระบบงาน และการปฏิบัติตามข้อบังคับของเรา การติดตามและแจ้งผลประโยชน์ หรือที่เกี่ยวกับกองทุนภายใต้การจัดการของเรา
1.2 เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตลอดจนกฎระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย รวมทั้งการปฏิบัติตามกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกองทุน
1.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลอื่น เช่น การบริหารจัดการกองทุน การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของกองทุน การบริหารด้านการเงินและงบประมาณ การติดต่อภายใน การติดต่อกับบุคคลภายนอก การดำเนินการต่าง ๆ ทางทะเบียน การมอบอำนาจ การจัดทำหนังสือรับรอง การจัดทำเอกสารเผยแพร่แก่สาธารณะ การจัดทำรายงาน การส่งข้อมูลให้หน่วยงานราชการ/หน่วยงานกำกับดูแล และการเข้าถึงระบบสารสนเทศ การตรวจสอบและจัดการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนและการทุจริต คดีหรือข้อพิพาทต่าง ๆ
1.4 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของพนักงานหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
1.5 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
1.6 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่สมาชิกได้ให้ไว้ในแต่ละคราว
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
2.1 ข้อมูลสำหรับการจัดทำทะเบียนสมาชิก เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ อายุงาน อัตราค่าจ้าง และข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเป็นสมาชิก
2.2 ข้อมูลในการติดต่อกับสมาชิก เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
2.3 ข้อมูลสำหรับการบริหารบัญชีกองทุนของสมาชิก เช่น อัตราเงินสะสม การเลือกนโยบายการลงทุน
2.4 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับผลประโยชน์ เช่น ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์ เบอร์โทรศัพท์ ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับเรา ให้สมาชิกแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย
2.5 ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
2.6 ข้อมูลทางการเงิน เช่น บัญชีธนาคาร ข้อมูลสำหรับการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยภาษี
2.7 ข้อมูลการใช้งานและการเข้าถึงระบบสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ระบบงาน เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ระบบโครงข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอีเมล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของเราและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2.8 ข้อมูลที่พนักงานเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และเอกสารต่าง ๆ ของเรา
2.9 ข้อมูลที่รวบรวมจากการมีส่วนร่วมกับเรา เช่น การเข้าร่วมการประชุม การเข้าร่วมกิจกรรม การตอบแบบสำรวจ การตอบแบบประเมิน รวมทั้ง รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว
2.10 สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของพนักงาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ ทะเบียนราษฎร์
2.11 ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาและข้อบังคับของเรา และการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ
ทั้งนี้ หากสมาชิกปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือเพื่อเข้าทำสัญญาแก่เรา อาจทำให้การปฏิบัติงานตามสัญญาและสิทธิในการเข้าถึงบริการที่เราจัดไว้ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์
3. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ
3.1 เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของสมาชิกเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่เราแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
3.2 เราอาจต้องประมวลผลข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ของสมาชิก ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของสมาชิก การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลอื่น
3.3 ในกรณีที่จำเป็น เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของสมาชิกโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากสมาชิกหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของสมาชิก
4. การใช้คุกกี้
เรามีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจะอธิบายถึงประเภท เหตุผล และลักษณะการใช้ คุกกี้บนเว็บไซต์นี้ รวมถึงวิธีการจัดการคุกกี้ ดังนี้
4.1. คุกกี้ (Cookies) คือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (text file) ที่จะถูกติดตั้ง หรือบันทึกลงบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของท่านเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ คุกกี้จะจดจำข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ เราจะเรียกเทคโนโลยีอื่นที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกันว่าคุกกี้ด้วย เราจะใช้คุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา โดยการใช้งานคุกกี้ของเราแบ่งออกตามลักษณะของการใช้งานได้ ดังนี้
(1) คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีความปลอดภัย และทำให้ท่านสามารถเข้าใช้เว็บไซต์ได้ เช่น การ log in เข้าสู่เว็บไซต์ การยืนยันตัวตน ทั้งนี้ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้ผ่านระบบของเว็บไซต์ของเราได้
(2) คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
(3) คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
(4) คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้ คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
4.2. การใช้คุกกี้โดยบุคคลที่สาม (Third-Party Cookies)
เว็บไซต์ของเรามีการใช้คุกกี้โดยบุคคลที่สาม ซึ่งลักษณะการใช้งานและการตั้งค่าจะเป็นไปตามคุกกี้ในข้อ 2 โดยท่านจะไม่สามารถเลือกตั้งค่าการใช้งานเฉพาะคุกกี้โดยบุคคลที่สามได้ในเว็บไซต์นี้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถควบคุมการใช้ข้อมูลของบุคคลที่สามนั้นได้ ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อของบุคคลที่สาม นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) และนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลที่สาม ซึ่งแตกต่างจากเว็บไซต์ของเราได้ที่เว็บไซต์ของบุคคลที่สามนั้น ๆ
4.3. การจัดการคุกกี้
ท่านสามารถเลือกตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภท ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) ได้ โดย “การตั้งค่าคุกกี้” หรือ การตั้งค่าในเว็บบราวเซอร์ (web browser) เช่น ห้ามการติดตั้งคุกกี้ลงบนอุปกรณ์ของท่านทั้งนี้ การปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
5.1 ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของสมาชิก สมาชิกมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของสมาชิกที่ให้ไว้กับเราได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาชิกได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
5.2 หากสมาชิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับเราหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
6.2 เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกไว้ตลอดระยะเวลาที่เป็นสมาชิกของเรา เพื่อปฏิบัติตามสัญญาและข้อบังคับของเรา และตามระยะเวลาที่จำเป็น ทั้งนี้ ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่สิ้นสมาชิกสภาพ
6.3 เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับผลประโยชน์ของสมาชิกไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
6.4 กรณีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกโดยขอความยินยอมจากสมาชิก เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าสมาชิกจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและเราดำเนินการตามคำขอของสมาชิกเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีเราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าสมาชิกเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของสมาชิกในอนาคตได้
6.5 เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
7.1 เราเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกกับ
(1) กลุ่มบริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี จำกัด , บริษัท โทไค เกจ เทคโนโลยี จำกัด , บริษัท เอ.ไอ. ฟาวน์ดรี้ แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด และ เอ.ไอ. อินโนเวทีฟพลัส จำกัด
(2) บุคคลและนิติบุคคลอื่น (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น บริษัทจัดการที่เรามอบหมายให้เป็นผู้บริหารกองทุน หรือเป็นนายทะเบียนที่ดูแลและจัดการข้อมูลสมาชิก ผู้ให้บริการเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ สถาบันการเงิน หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
7.2 เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของสมาชิกอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
8. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราและเราได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
8.2 เราจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น การควบคุมการเข้าถึงหรือควบคมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control) การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งาน (user access management) นอกจากนี้ เราได้จัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
9. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก
9.1 สมาชิกมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้
• ถอนความยินยอมที่สมาชิกได้ให้ไว้กับเราเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก
• ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก
• ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
• คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับสมาชิก
• ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของสมาชิกได้ (anonymous)
• ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก
• แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
• ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของเราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เราจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของสมาชิกโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
9.2 ท่านสามารถใช้สิทธิตามกฎหมาย โดยติดต่อแผนกทรัพยากรบุคคล เบอร์ติดต่อภายใน 2350 ถึง 2354หรือ ไปที่ [ https://www.aitechgroup.net/ ] (โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)
10. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในกลุ่มแยกตามแต่ละบริษัท ดังนี้
บริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี จำกัด : 56 ม.9 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 12140 โทรศัพท์ : +66(02) 407-3460
บริษัท โทไค เกจ เทคโนโลยี จำกัด : 56/1 ม.9 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 12140 โทรศัพท์ : +66(02) 407-3474
บริษัท เอ.ไอ. ฟาวน์ดรี้ แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด : 56/3-4 ม.9 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 12140 โทรศัพท์ : +66(02) 407-3482
บริษัท เอ.ไอ. อินโนเวทีฟพลัส จำกัด : 29/73 ม.2 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนท์บุรี 11110 โทรศัพท์ : +66(02) 625-4975, +66(02) 925-4805
10.2 กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อเบอร์ +66(02) 407-3460 หรือ e-mail: info.marketing@aitech.co.th
กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เราจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ